ช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ มีหลายข้อห้ามที่เป็นกังวล ไม่พ้นแม้กระทั่งแมวที่เลี้ยงมานาน ก็อาจกลายเป็นความสงสัยว่า คนท้องเลี้ยงแมวได้ไหม หลังจากข้อความที่บอกว่า แมวเป็นอันตรายกับทารก หรือว่าจำเป็นที่จะต้องนำไปทิ้งทันทีหรือเปล่า
ช้าก่อนอย่าเพิ่งทิ้ง ! แมวที่เลี้ยงอยู่เมื่อก่อนหน้านี้ ย่อมมีความผูกพันกับเจ้าของอยู่แล้วค่ะ แต่การติดเชื้อจากแมว ที่เป็นอันตรายทารกและการตั้งครรภ์ เป็นเรื่องคนละส่วนกัน วันนี้ Mamastory จะพาไปทำความเข้าใจกับเรื่องนี้ให้มากกว่าเดิม พร้อมทั้งวิธีปรับตัว เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ ทั้งคน แมว ทารก และการตั้งครรภ์ เพื่อความปลอดภัยตลอดจนครบ 9 เดือนค่ะ !
ตอบคำถาม คนท้องเลี้ยงแมวได้ไหม
เมื่อเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์ทาสแมว นอกจากเรื่องอาหารการกินของตัวเองแล้ว เรื่องของอาหารการกินแมว ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องระวังให้ดีค่ะ เพราะการใช้ชีวิตแบบปกติ โดยที่ไม่ทันได้ระวังให้ดี แมวอาจจะสร้างความอันตรายต่อทารกในครรภ์ โดยที่ไม่ทันรู้ตัว
เนื่องจากแมวบางตัว อาจจะมีเชื้อโรคที่สามารถทำให้แม่ท้องติด จนส่งผลไปยังทารกในครรภ์ และเมื่อทารกได้รับเชื้อ อาจมีอาการรุนแรงจนถึงเสียชีวิตได้ ดังนั้นหากเป็นแมวที่เลี้ยงระบบปิด ไม่ได้มีการปล่อยออกไปข้างนอก หรือรับเชื้อจากอาหารที่ไม่สุก ก็ยังสามารถเลี้ยงแมวได้ตามปกติค่ะ เพียงแต่ว่าการเก็บขี้แมว หรือทำความสะอาดอื่น ควรให้คนอื่นทำแทน ช่วงที่ตั้งครรภ์ควรงด แต่ยังเล่นได้ปกตินะคะ ไม่เป็นอะไร
แมวอันตรายต่อคนท้องอย่างไร
โดยธรรมชาติของแมวแล้ว มีพยาธิกำเนิดโรคที่ซ่อนอยู่ในลำไส้ ที่ชื่อว่า “ท็อกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis)” หรือ “โรคขี้แมว” ซึ่งโรคนี้เป็นอันตรายต่อแม่ท้องเป็นอย่างมาก โดยมีการส่งผ่านโรคผ่านทางขี้แมว เมื่อได้รับเชื้อ ทารกจะได้รับผลกระทบที่รุนแรงโดยตรง
ช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ เป็นช่วงที่ทารกอ่อนแอมากที่สุด และยังไม่มีภูมิคุ้มกันมากพอที่จะป้องกันตัวเอง ทำให้หากได้รับเชื้อจากโรคขี้แมว จะได้รับผลกระทบรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตในครรภ์ หรือหากติดเชื้อแล้วคลอดออกมาได้ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอันตราย เช่น ตาบอด สติปัญญาพร่อง และการเรียนรู้ลดลง ทั้งนี้ความรุนแรงขึ้นอยู่กับทารกแต่ละคน ที่ต่างกันออกไป
บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคขี้แมว (Toxoplasmosis) อันตรายต่อแม่ท้องที่ต้องพึงระวัง
สาเหตุการติดเชื้อโรคขี้แมว
- กินอาหาร หรือดื่มน้ำ ที่มีการปนเปื้อนของเชื้อ
- กินถุงซีสต์ของพยาธิ ที่อยู่ในเนื้อสัตว์ดิบ หรือปรุงไม่สุกที่มีเชื้อ
- ทารกติดเชื้อผ่านครรภ์แม่ ระหว่างการตั้งครรภ์
สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก็คือ โรคนี้ไม่ใช่โรคที่เกิดกับแม่ตั้งครรภ์ทุกคน แต่เกิดเฉพาะบางคนเท่านั้น และเชื้อจะทำร้ายทารกในครรภ์ มากกว่าแม่ท้องทั่วไป แต่ถ้าหากได้รับเชื้อก่อนตั้งครรภ์ และร่างกายมีแอนติบอดี ก็ไม่ถือว่าเป็นอันตราย หรือเป็นกลุ่มเสี่ยงค่ะ
วิธีอยู่ร่วมกับแมวให้ปลอดภัย
ถึงแม้ว่าการเลี้ยงแมว อาจจะสร้างความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ แต่สำหรับแม่ที่เลี้ยงมาตั้งแต่ก่อนมีเบบี๋ ก็เรียกได้ว่าเจ้าเหมียวเป็นหนึ่งในครอบครัวเลยก็ว่าได้ เรื่องนี้จึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่าไร เพราะหากมีระเบียบมากพอ ลดการคลุกคลีกับแมว หรือไม่ทำความสะอาดขี้แมว ก็สามารถเพิ่มความปลอดภัยได้
1. ให้ความสำคัญกับสุขอนามัย
ความสำคัญของสุขอนามัยเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งก่อนทาน การทาน หรือวัตถุดิบ ควรทำความสะอาดให้ดีเสมอ ไม่ให้แมวเข้าใกล้อาหาร
2. เลี่ยงการดื่มน้ำที่ไม่สะอาด
ในช่วงของการตั้งครรภ์ไตรมาสแรก การเลือกคุณภาพอาหารและน้ำดื่ม เป็นเรื่องสำคัญมาก ควรเลือกน้ำดื่มสะอาด ไม่มีสารปนเปื้อน หรือบรรจุภัณฑ์ปิดไม่สนิท
3. ล้างมือบ่อย ๆ ให้เป็นนิสัย
ไม่ว่าจะทำอะไร ควรล้างมือทุกครั้ง ทั้งก่อนการกินอาหาร หลังการกินอาหาร รวมไปถึงหลังการสัมผัสแมว เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อ
4. ห้ามทานของสุก ๆ ดิบ ๆ
เพราะอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบทุกประเภท เสี่ยงเชื้อโรคอยู่เสมอ แม่ท้องควรกินอาหารที่ปรุงสุกแล้วเท่านั้น รวมไปถึงแมวก็ต้องห้ามกินด้วย เพราะอาจจะแพร่เชื้อได้ภายหลัง
5. ลดการสัมผัสแมว หรือของใช้เกี่ยวกับแมวลง
หากไม่มีความจำเป็น พยายามเลี่ยงการสัมผัสอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับแมวลง โดยเฉพาะกระบะทรายแมว หากจำเป็นควรสวมถุงมือ และล้างมือทุกครั้ง และหากเป็นไปได้ ควรเปลี่ยนทุกวัน และเอาไว้นอกบ้านเสมอ
6. งดการสัมผัสแมวจร
ถึงแม้จะรักแมวมากแค่ไหน แต่การสัมผัสแมวจรจัด ที่ไม่รู้ว่าเขามีนิสัยแบบไหน ได้รับเชื้อมาหรือไม่ อาจจะสร้างอันตรายแต่แม่ท้อง หรือหลังคลอดช่วงแรกได้ง่าย
7. กำหนดพื้นที่เลี้ยงแมวให้ชัดเจน
หากเคยนอนด้วยกันบ่อย อาจจะต้องเลี่ยงไปก่อน เพราะขนแมวอาจกระตุ้นภูมิแพ้ได้ และอาจจะส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้
นอกจากนี้ หากไม่แน่ใจว่าแมวปลอดภัยหรือไม่ อาจพาแมวที่เลี้ยงไปปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการดูแลอย่างเหมาะสมก็ได้ค่ะ อีกทั้งการพาไปฉีดวัคซีนตามที่กำหนด และให้แมวกินอาหารที่ปรุงสุก ก็จะเป็นการลดการติดเชื้อต่อแม่ และทารกในครรภ์ได้อีกทางหนึ่งค่ะ
หรือหากยังกังวลใจอยู่ คือการนำไปฝากเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นญาติ บุคคลที่ไว้ใจได้ หรือโรงพยาบาลรับเลี้ยง ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ถ้าหากแม่รู้สึกไม่โอเค ก็ต้องข่มใจและลดการเล่นกับแมวลง เพื่อที่ว่าน้องจะยังอยู่ในสายตาก็ได้ค่ะ
ไม่มีอาการไม่ใช่ว่าไม่ติดเชื้อ
เมื่อพูดถึงโรคขี้แมว หรือ ท็อกโซพลาสโมซิส อาจจะดูเป็นโรคที่น่ากลัว แต่โดยส่วนมากทารกที่ติดเชื้อ อาจจะไม่ได้แสดงอาการอย่างชัดเจนราว 60% จะส่งผลที่ชัดเจน 30% ที่มีอาการรุนแรง อาทิ พิการตั้งแต่กำเนิด, จอตา และประสาทตาอักเสบ, สมองบวมน้ำ และอารมณ์ผิดปกติ และอีก 10% คือส่งผลขั้นรุนแรง จนทารกเสียชีวิต แต่ในกรณีที่แม่ท้องแข็งแรงมาก ๆ ต่อให้ได้รับเชื้อโรคตัวนี้ ก็ไม่สามารถทำให้ลูกติดเชื้อร้ายแรงค่ะ
ถึงแม้ว่าจะเลี้ยงแมวเป็นอย่างดี ระวังแค่ไหน แต่ถ้ายังคงทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ ก็ไม่ได้ทำให้แม่ท้องปลอดภัยมากขึ้นค่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นการดองหรืออะไร แต่ถ้าไม่ผ่านความร้อน หรือปรุงให้สุก ก็ยังถือเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับคนท้องอยู่ดีค่ะ เพราะอาหารดิบมักมีเชื้อโรคตามธรรมชาติหลายชนิด ไม่ว่าจะเลี้ยงแมวหรือไม่ การทานอาหารที่สุกแล้ว จะเป็นผลดีต่อตัวแม่และทารกในครรภ์
สำหรับคำถามที่ว่า คนท้องเลี้ยงแมวได้ไหม สามารถเลี้ยงได้ค่ะ เพียงแต่ช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ควรลดการสัมผัสโดยตรงลง นอกจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดไหน แมว หมา กระต่าย สิ่งที่สำคัญคือความสะอาดต่อตัวแม่ท้องเองค่ะ ถ้าเป็นไปได้ทุกครั้งที่สัมผัสกับสิ่งที่คาดว่า อาจจะมีการปนเปื้อนได้ การทำความสะอาดจึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุดค่ะ ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่กระทบต่อตัวแม่โดยตรง แต่ทารกที่ยังไม่แข็งแรงในครรภ์ ก็อาจได้รับผลกระทบได้ หากไม่ได้ระวังในเรื่องนี้
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง :
ซึมเศร้าหลังคลอด โรคที่ต้องรู้ เพราะแม่หลายคนต้องเผชิญ!
คนท้องท้องเสีย อันตรายไหม? แม่ท้องท้องเสียกินยาอะไรได้บ้าง?
คนท้องยืดผมได้ไหม อยากทำผมสวยตอนตั้งครรภ์ ทำได้หรือเปล่า ?
ที่มา : 1